สิ่งที่ต้องรู้ หากสั่งของออนไลน์แต่ได้สินค้าไม่ตรงปก และป้องกันการโดนโกง

ยุคของการซื้อขายออนไลน์ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิง ผู้คนสามารถสั่งซื้อสินค้าได้แทบทุกอย่างเพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งของแต่งบ้านขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความสะดวกสบายนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะการที่ “สินค้าไม่ตรงปก” หรือการ “โดนโกง” จากร้านค้าออนไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

เพื่อให้คุณสามารถช้อปออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและมีข้อมูลครบถ้วน บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจประเด็นสำคัญที่ควรรู้เมื่อเจอปัญหาสินค้าไม่ตรงปก วิธีรับมือที่ถูกต้อง และแนวทางการป้องกันล่วงหน้า

เข้าใจปัญหา “สินค้าไม่ตรงปก” ให้ชัดเจนก่อน

คำว่า “สินค้าไม่ตรงปก” อาจมีหลายลักษณะ ตั้งแต่เล็กน้อย เช่น สีของสินค้าคลาดเคลื่อนจากภาพเล็กน้อย ไปจนถึงระดับร้ายแรง เช่น ได้สินค้ามือสอง สภาพชำรุด หรือแม้กระทั่งไม่ได้รับสินค้าเลย ในกรณีเหล่านี้ ผู้บริโภคมีสิทธิ์ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในการขอคืนเงิน ขอเปลี่ยนสินค้า หรือแจ้งความดำเนินคดีหากพบว่าเป็นการฉ้อโกงโดยเจตนา

ลักษณะที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • สินค้าไม่ตรงกับที่แสดงไว้ในภาพหรือคำอธิบาย
  • สินค้าถูกแทนด้วยของที่คุณไม่ได้สั่ง
  • สภาพสินค้าเสียหาย หรือใช้การไม่ได้
  • สินค้าถูกปลอมแปลง (เช่น แบรนด์ปลอม)
  • ร้านค้าเพิกเฉย ไม่รับผิดชอบหรือไม่สามารถติดต่อได้หลังการขาย

สิทธิของผู้บริโภคเมื่อได้รับสินค้าที่ไม่ตรงปก

การซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ถือว่าอยู่ภายใต้การบังคับใช้ของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเช่นเดียวกับการซื้อขายทั่วไป สิ่งที่ผู้บริโภคควรรู้มีดังนี้

สิทธิในการคืนสินค้า

ผู้บริโภคมีสิทธิ์ขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า หากพิสูจน์ได้ว่าสินค้ามีความผิดพลาดจากฝั่งผู้ขาย เช่น สินค้าไม่ตรงกับที่โฆษณา มีตำหนิหรือชำรุดตั้งแต่ต้น หรือไม่ได้รับของตามกำหนด โดยเงื่อนไขการคืนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น 7 วัน, 14 วัน หรือภายในระยะเวลาที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการขาย

สิทธิในการแจ้งร้องเรียน

หากผู้ขายไม่รับผิดชอบหรือปฏิเสธความรับผิดชอบโดยไม่มีเหตุผล ผู้บริโภคสามารถรวบรวมหลักฐานและแจ้งร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือผ่านระบบร้องเรียนของแพลตฟอร์มที่ซื้อสินค้า

สิทธิในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

ในกรณีที่มูลค่าความเสียหายสูง หรือเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและทรัพย์สินส่วนบุคคล ผู้บริโภคมีสิทธิ์ดำเนินคดีทางแพ่งหรืออาญา ตามความเหมาะสม

ขั้นตอนที่ควรทำทันทีเมื่อเจอสินค้าผิดปกติ

เมื่อคุณได้รับสินค้าแล้วพบว่าไม่ตรงกับที่สั่ง ควรดำเนินการตามลำดับต่อไปนี้โดยเร็ว เพื่อให้มีหลักฐานที่ชัดเจนและรักษาสิทธิ์ของตนเอง การดำเนินการโดยเร็วและมีหลักฐานชัดเจน จะช่วยให้เรื่องได้รับการพิจารณาอย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสได้รับการชดเชยมากขึ้น เช่น

  1. อย่าเพิ่งเปิดกล่องอย่างรุนแรง ควรแกะสินค้าอย่างระมัดระวัง พร้อมถ่ายวิดีโอหรือภาพนิ่งเป็นหลักฐานตั้งแต่ยังไม่ได้แกะซองหรือกล่อง
  2. ถ่ายภาพความเสียหายหรือความผิดปกติทันที โดยให้เห็นรายละเอียดของปัญหา เช่น รอยตำหนิ ยี่ห้อผิด หรือสภาพสินค้า
  3. ติดต่อร้านค้าโดยตรงผ่านช่องทางที่ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นแชท หน้าเพจ หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ให้ไว้
  4. แจ้งเรื่องผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้ซื้อสินค้า เช่น Shopee, Lazada, Facebook Marketplace โดยเลือกฟังก์ชัน “ร้องเรียน” หรือ “ขอคืนเงิน”
  5. เก็บหลักฐานทุกอย่าง เช่น สลิปโอนเงิน แชทสนทนา อีเมลตอบกลับ หรือเลขพัสดุ เพื่อใช้ในการแจ้งร้องเรียน

ช่องทางร้องเรียนที่สามารถใช้ได้

ในกรณีที่ร้านค้าไม่ยอมรับผิดชอบหรือไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา ผู้บริโภคสามารถใช้ช่องทางทางกฎหมายเพื่อร้องเรียน ดังนี้

  • สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
    เว็บไซต์: www.ocpb.go.th
    โทรศัพท์สายด่วน: 1166
  • ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    สำหรับกรณีที่เข้าข่ายฉ้อโกงหรือหลอกลวง
  • ร้องเรียนกับแพลตฟอร์มกลาง (e-Marketplace)
    เช่น Shopee, Lazada, JD Central ซึ่งมีระบบดูแลลูกค้า
  • สมาคมผู้บริโภค หรือมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค
    สำหรับคำปรึกษาทางกฎหมายเบื้องต้นและแนวทางฟ้องร้อง

แนวทางป้องกันการโดนโกงจากการซื้อของออนไลน์

แม้การซื้อของออนไลน์จะมีความเสี่ยง แต่ก็มีวิธีที่ช่วยลดโอกาสการถูกโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณมีวินัยในการตรวจสอบและเลือกซื้ออย่างมีสติ

เลือกร้านค้าที่น่าเชื่อถือ

ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีรีวิวเยอะ มีคะแนนดี และมีลูกค้าเคยซื้อแล้วจริง ไม่ควรซื้อสินค้าราคาถูกผิดปกติโดยไม่ตรวจสอบรายละเอียด เพราะมักเป็นจุดล่อให้หลงเชื่อ

อย่ารีบร้อนโอนเงินทันที

หากเป็นการซื้อขายนอกระบบแพลตฟอร์ม ควรหลีกเลี่ยงการโอนเงินเต็มจำนวนก่อนรับของ หรือเลือกใช้ระบบเก็บเงินปลายทาง (COD) แทน เพื่อลดความเสี่ยง

ใช้แพลตฟอร์มที่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ

เว็บไซต์หรือแอปที่มีระบบคุ้มครองลูกค้า เช่น การถือเงินไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับของ หรือมีนโยบายคืนเงิน จะช่วยให้ผู้ซื้อมีอำนาจต่อรองเมื่อเกิดปัญหา

ตรวจสอบความถูกต้องของสินค้าและรายละเอียด

ก่อนกดสั่งซื้อ ควรอ่านคำอธิบายสินค้าให้ละเอียด ตรวจสอบขนาด สี จำนวน และคุณสมบัติให้ตรงกับความต้องการ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจกลายเป็นปัญหาภายหลัง

ระวังบัญชีปลอมและเพจแอบอ้าง

มิจฉาชีพมักปลอมเพจให้คล้ายกับร้านค้าใหญ่ หรือใช้บัญชีชื่อบุคคลทั่วไปในการรับเงิน หากคุณเห็นชื่อบัญชีแปลก ๆ หรือไม่มีข้อมูลร้านค้า ควรหยุดและตรวจสอบก่อนเสมอ

ใช้ช่องทางการชำระเงินที่ปลอดภัย

การใช้บัตรเครดิต หรือระบบชำระเงินที่มีระบบป้องกัน เช่น PromptPay แบบมีชื่อเจ้าของบัญชีแสดง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโอนผิดหรือโอนให้มิจฉาชีพ

ปัญหาสินค้าไม่ตรงปกหรือการโดนโกงจากการซื้อของออนไลน์ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคดิจิทัลทุกคนมีโอกาสเจอได้ แต่หากเรารู้เท่าทัน มีสติ และรู้จักป้องกันไว้ล่วงหน้า จะสามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมาก

ในกรณีที่เกิดปัญหาแล้ว ควรรวบรวมหลักฐานไว้ให้ครบถ้วน ดำเนินการตามลำดับอย่างชัดเจน และไม่ปล่อยผ่าน เพราะการเรียกร้องสิทธิของคุณคือการส่งสัญญาณไปยังตลาดให้ยกระดับความน่าเชื่อถือ และลดการฉ้อโกงในระบบซื้อขายออนไลน์ในระยะยาว